|
ฟาบินโญ่เดี้ยง!! โชด้า ควง โม คนละตุง ‘หงส์’ 2-0 กด 6 แต้มเต็ม BLOG TOPIC_A ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line ID: @saless เบอร์โทรศัพท์ 0654695416 , 0654693944 โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท) กองหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แทบไม่เหลือแล้วหลัง ฟาบินโญ่ กองหลังจำเป็นเดี้ยงเป็นรายล่าสุดยังดีได้ ดิโอโก้ โชต้า ยิงเบิกร่องและเป็นลูกที่ 10,000 ในประวัติศาสตร์สโมสรก่อนโม ซาลาห์ จะมากดจุดโทษทดเจ็บเอาชนะ มิดทิลลันด์ แบบฟอร์มหนืดๆ 2-0 คว้าชัย 2 นัดติดนำจ่าฝูง แชมเปี้ยนส์ลีก กลุ่ม ดี ลิเวอร์พูล Starting Formation: 4-3-3 1. อลิสซอน เบ็คเกอร์ 6.5 12. โจ โกเมซ 7 3. ฟาบินโญ่ 30' 6 26. แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน 7 66. เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ 7.5 18. ทาคุมิ มินามิโนะ 60' 6 7. เจมส์ มิลเนอร์ 6.5 14. จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 46' 6 27. ดิว็อค โอริกี้ 60' 6 20. ดิโอโก้ โชต้า 80' 7.5 23. เซอร์ดาน ชากิรี่ 6.5 ตัวสำรอง 5. จอร์จินิโอ้ ไวจ์นาลดุม 46' 6 46. รีส วิลเลี่ยมส์ 30' 6 13. อาเดรียน 9. โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ 80' 6 10. ซาดิโอ มาเน่ 60' 6 11. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 60' 6.5 17. เคอร์ติส โจนส์ 62. ชีมิน เคลเลเฮอร์ 76. เนโก วิลเลี่ยมส์ 64. เจค เคน ผู้จัดการทีม เยอร์เก้น คล็อปป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี สนาม แอนฟิลด์ อังคารที่ 27 ตุลาคม 2563 กรรมการ พาเว ราซซ์คอฟสกี้ ลิเวอร์พูล 2 0 มิดทิลลันด์ 1-0 ดิโอโก้ โชต้า 55'2-0 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 90+2' (Pen.) ไฮไลท์ ลิเวอร์พูล 2-0 มิดทิลแลนด์ ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัวนักเตะเพียบในนัดนี้โดยเฉพาะแดนกลางและแดนหน้า โดยสามประสานวันนี้เป็นหน้าที่ของเซอร์ดาน ชากิรี่, ทาคุมิ มินามิโนะและดิว็อค โอริกี้ ส่วนดิโอโก้ โชต้าคอยทำเกมจากแดนกลางแล้วให้เจมส์ มิลเนอร์ และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน คอยไล่แดนกลาง ขณะที่แนวรับนั้นยังใช้ชุดเดิมลงสนาม 10' หงส์ครองเกมบุกใส่ เริ่มเกมในช่วงแรกลิเวอร์พูล ครองเกมบุกกดดันเข้าใส่ได้มากกว่าแต่ยังหาจังหวะเข้าทำไม่เจอ ขณะที่ทีมเยือนมีโอกาสส่องไปหนจากจังหวะที่โชลซ์เปิดบอลไปให้เดรเยอร์ ยิงด้วยซ้ายแต่ไปติดเซฟของอลิสซอน 15' เฮนโด้โขกไม่มีอะไร เกมยังคงเป็นของเจ้าถิ่นแทบจะฝ่ายเดียวแต่หาโอกาสเข้าทำแทบไม่ได้ จังหวะนี้ได้คอนเนอร์โรเบิร์ตสันเปิดเข้ามาเฮนเดอร์สันได้โหม่งแต่ก็ไม่มีอะไรให้ลุ้น 28' งานเข้า!ฟาบินโญ่เดี้ยง น้องรีสมาแทน เกมต้องหยุดลงชั่วขณะเมื่อฟาบินโญ่ มีอาการบาดเจ็บที่ขาซ้ายจังหวะวิ่งต้องให้หมอลงมาดูอาการยืดกล้ามเนื้อพักใหญ่ ทว่าสุดท้ายเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนเอา รีส วิลเลี่ยมส์ ลงสนามมาแทน 38' โชต้ายิงไม่เต็ม คอนเนอร์ทางซ้ายของลิเวอร์พูล โรเบิร์ตสัน เปิดบอลมาลุ้นตรงกลางประตูแล้วมาตกใส่เท้าของโชต้าที่าางเท้าแปด้วยขวาแต่โดนไม่ดีบอลก็หลุดออกหลังไปอีก 40' มิลเนอร์หลุดซัดติดบล็อค จังหวะนี้ลิเวอร์พูลทำเกมกันได้สวย มินามิโนะจ่ายไปให้โชต้า ดึงจังหวะก่อนแทงทะลุช่องให้มิลเนอร์ที่สอดขึ้นมาตวัดยิงด้วยขวาบอลไปติดบล็อคออกหลังได้แค่เตะมุม 45+1' ทาคิโขกไกลเกิน ก่อนหมดครึ่งแรก อาร์โนลด์ วางบอลวางมาจากริมเส้นด้านขวาให้มินามิโนะ พยายามวิ่งสอดไลน์มาโขกแต่ระยะไกลเกินไปบอลก็เบาค่อยๆหลุดออกหลังไม่มีอะไร HALF TIME 55' หงส์ชิ่งสวย!โชต้าจบสบายนำ 1-0 หงส์แดง ได้ประตูขึ้นนำจนได้ เริ่มจากเทรนท์ลากบอลจี้เข้าหากรอบเขตโทษก่อนฝากบอลให้ชากิรี่ แทงทะลุช่องกลับมาให้แล้วปาดเข้ากลางมีโชต้าวิ่งมารอก่อนยิงเข้าประตูโล่งๆไป 1-0 และลูกนี้เป็นประตูที่ 10,000 ของสโมสรในการลงสนามทุกรายการด้วย 60' ซาลาห์,มาเน่ เติมจี๊ด คล็อปป์เปลี่ยนตัวเพิ่มเอาดิว็อค โอริกี้ และทาคุมิ มินามิโนะออกไปแล้วส่งซาดิโอ มาเน่และโม ซาลาห์ ลงสนามมาเติมแนวรุกแทนช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย 67' ชากิรี่สับขาอย่างสวย ไวจ์นาลดุมจ่ายบอลไปให้ชากิรี่โชว์สับขาหลอกใส่โชลซ์ได้สวยก่อนหลุดเข้ากรอบเขตโทษแต่สุดท้ายม่เปาลินโญ่ อ่านทางถูกขยับมาดักได้ก่อนไม่งั้นดาวเตะสวิสได้ยิงเต็มๆแน่ 76' เอวานเดอร์ม้วนยิงหลุดเสา ลิเวอร์พูลเกือบโดนตีเสมอ เอวานเดอร์ตัวสำรองจับบอลในกรอบเขตโทษได้ก่อนม้วนหนีโกเมซแล้วตวัดยิงด้วยขวาแต่โชคร้ายบอลไม่ตรงกรอบหลุดเสาขวามือออกไป 80' ซาลาห์ปั่นข้ามคานไกล จังหวะสวนกลับเร็วซาลาห์ลากจี้จากริมเส้นขวาตัดเข้ากลางแล้วตัดสินใจไม่ส่งให้มาเน่ บรรจงปั่นด้วยซ้ายนอกกรอบทว่าบอลโด่งข้ามคานออกไปไกล 88' ฟีโน่ยิงเสียราคา เทรนท์ลุยขึ้นมาอีกรอบเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจ่ายยัดกลับมาให้ฟิร์มิโน่ที่ยืนรอตรงจุดโทษแต่ซัดโด่งข้ามคานออกไปไกลอย่างน่าผิดหวัง 89' หงส์เสียววาบ!เดรเยอร์หลุดยิงเข้าหน้าต่าง มิดทิลลันด์พลาดได้ประตูตีเสมอแบบไม่น่าเชื่อเดรเยอร์เกี่ยวบอลเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาอย่างสวยก่อนพริ้วหนีโกเมซได้แล้วแต่จังหวะจิ้มผ่านอลิสซอนดันไปเข้าข้างตาข่ายเท่านั้น 90+1' ซาลาห์กดโทษปิดท้าย!หงส์ซิวชัย 2-0 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บลิเวอร์พูลมาได้จุดโทษจังหวะสวนเร็วซาลาห์ลากเข้ากรอบเขตโทษก่อนโดนเปาลินโญ่มาเหยียบส้นเท้าด้านหลังล้มลงไปกรรมการเป่าทันทีแล้วเป็นดาวเตะอียิปต์รับหน้าที่ยิงเองเต็มข้อเข้าไป 2-0 ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้ขยับเป็นจ่าฝูงหล่อๆ มิดทิลลันด์ Starting Formation: 4-2-3-1 31. มิคเคล แอนเดอร์เซ่น 6 14. อเล็กซานเดอร์ โชลซ์ 6 28. เอริก สเวียตเชนโก้ 6 29. เปาลินโญ่ 6 6. โจเอล แอนเดอร์สสัน 6.5 7. ปิโอเน่ ซิสโต้ 72' 6 40. เยนส์ คายุสเต้ 80' 6.5 38. แฟร้งค์ ออนเยก้า 6.5 9. ซอรี่ คาบา 80' 6 11. มาบิล 65' 6 36. อันเดอร์ส เดรเยอร์ 6 ตัวสำรอง 10. เอวานเดอร์ 72' 6 26. ลาสส์ วิบ 25. มานเรการ์ เจมส์ 2. ดิออน คูลส์ 15. บอซไฮดาร์ คราเยฟ 80' 6 34. มิคเคล แอนเดอร์สัน 65' 6 30. โอลิเวอร์ ออตเตเซ่น 43. นิโคลัส แมดเซ่น 33. ลูก้า พีเฟฟเฟอร์ 80' 6 45. กุสตาฟ อิซัคเซ่น 44. นิโคลัส ดีร์ 16. วัลเดมาร์ เบิร์กโว่ ธอร์เซ่น ผู้จัดการทีม ไบรอัน พริสเก้ แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Wed Oct 28, 2020 06:44, ทั้งหมด 21 ครั้ง
|
|